Wednesday, September 05, 2007

มิตรแท้


คุณหวังชอบคบค้าผูกมิตรมากมาย แม้จะมีมิตรมากแต่มิตรเหล่านี้ ล้วนเป็นเพื่อนกินทั้งนั้น ทุกวันเอาแต่เที่ยวกินเล่นดื่ม อยู่มาวันหนึ่งคุณหวังได้ทำผิดจนถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลฟ้องร้องคดีความ เขาจึงรุดหน้าไปขอความช่วยเหลือเหล่ามิตรสหายที่คบค้า แต่ว่ามิตรที่ก่อนหน้านี้ที่ว่าได้ร่วมสาบานกันไว้นั้น ต่างหลีกลี้หนีหน้าเพราะกลัวภัยจะมาถึงตัวหลังออกจากคุก มีคนถามควานเห็นของเขาถึงในเรื่องการผูกมิตร เขาจึงเขียนกลอนให้บทหนึ่งว่า “น้ำใจของคนบาง แท้จริงดั่งกระดาษนั่น ยามล้มลุกเองพลัน เขาเหล่านั้นพึ่งไม่ได้ ผูกมิตรไว้ก็มาก แต่ก็มักมิตรเมรัย เมื่อเกิดเหตุเภทภัย หาสหายไม่อยู่บ้าน!”ในบทบันทึกจริยาได้บันทึกไว้ว่า “สัมพันธภาพแห่งสุภาพชนจืดดั่งน้ำ สัมพันธภาพแห่งปุถุชนหวานปานเมรัย ” ด้วยเหตุแห่งการคบค้ากับสุภาพชนไร้ซึ่งผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง จึงเปรียบดั่งความจืดของน้ำ ที่ไหลเรื่อยไม่ขาดหายสามารถใช้ประโยชน์ใด้ตลอดชีวิต และทนได้กับการทดสอบแต่การคบค้าเยี่ยงปุถุชน แรกเริ่มนั้นดั่งพี่น้องร่วมสายเลือด แต่หลังจากนั้น ด้วยเหตุแห่งการคบค้าคือผลประโยชน์ จึงแสนจะเปราะบาง ยากทนต่อการหล่อหลอมแค่เพียงลมพัดผ่านก็ซ่านกระเซ็น ดังที่ว่า “หากคบกันเพราะอำนาจ เมื่อสิ้นอำนาจก็ขาดสะบั้น หากคบกันเพราะผลประโยชน์ เมื่อไร้ผลประโยชน์ก็ลับหาย ”พระโอวาทพระอาจารย์จี้กง หากอยากจะรู้จักกับคนแปลกหน้าสักคน จะต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษาเรียนรู้จากกิริยาวาจาของเขาผู้นั้น เช่นนี้จึงเกิดความเชื่อมั่นต่อกัน แต่หาก คนแปลกหน้าที่เจ้ารู้จักในระยะเวลาอันสั้นเขาก็ให้ความสนิทสนมกับเจ้าดังคบหามาเป็นสิบปื บุคคลเช่นนี้เจ้าจะต้องระวังไว้ให้จงดีเพราะว่า ในใจของเขาอาจมีอะไรเคลือบแฝงอยู่ เปรียบได้ดังนอกรีตนอกรอย ที่คอยยั่วเย้าจิตใจของเจ้า หากติดกับเขา เจ้าก็ยากกลับคืน!

No comments: